คุ้มไหม? PILOT 2026 มุ่งมั่นด้วยกำลัง 285 แรงม้าและการกันเสียงรบกวนที่ดีขึ้น เปรียบเทียบต้นทุนกับประสิทธิภาพของไฮบริดคู่แข่ง

เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกลุ่ม SUV 3 แถว! ปี 2026 กำลังจะมาถึง และ Honda จะเปิดตัวอัปเดตช่วงกลางวงจรของ Pilot ที่น่าจะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ คำถามที่ลอยอยู่ในอากาศคือ: การลงทุนกล้าหาญของ Honda ในการทำให้เทคโนโลยีขั้นสูงเป็นเรื่องของคนทั่วไปจะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเอาชนะคู่แข่งหรือไม่ หรือการขาดตัวเลือกไฮบริดอย่างต่อเนื่องจะปล่อยให้ Pilot ต้องตกเป็นรองคู่แข่ง?
ปฏิวัติเทคโนโลยีใน HONDA PILOT 2026: หน้าจอใหญ่สุด, Google Built-in และแนวคิดใหม่ด้านคุณค่า
HONDA PILOT 2026 ไม่ใช่แค่การอัปเดต แต่เป็นการแสดงเจตนารมณ์ ในการเปลี่ยนแปลงนิยามของคำว่า “มาตรฐาน” ในกลุ่ม SUV 3 แถวที่แข่งกันอย่างดุเดือด Honda ตัดสินใจติดตั้งเทคโนโลยีที่เคยเป็นสิทธิพิเศษของรุ่นแพงสุดไว้ในรุ่นเริ่มต้นอย่าง Sport ซึ่งไม่ใช่แค่การปรับปรุง แต่เป็นการ “เปิดโอกาสให้ใช้งานทรัพยากรระดับสูง” ซึ่งมุ่งหวังจะกระตุ้นคู่แข่ง
ลองนึกภาพเข้าไปในรุ่นพื้นฐานที่สุด แล้วพบกับหน้าจอ infotainment ระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว เพื่อเปรียบเทียบ รุ่น 2025 Sport มาพร้อมหน้าจอกลางขนาดเพียง 7 นิ้ว และชุดกลุ่มดิจิทัลขนาดเท่าๆ กัน การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นก้าวกระโดดในประสบการณ์ผู้ใช้และทำให้ Pilot เทียบเท่าหรือแม้กระทั่งนำหน้าคู่แข่งหลายรายตั้งแต่รุ่นพื้นฐาน การติดตั้ง Google Built-In ผนวก Google Maps, Google Assistant และการเข้าถึง Play Store ได้โดยตรงในรถยนต์ เพิ่มระดับความเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi 5G

ดีไซน์ใหม่และเสียงรบกวนในห้องโดยสารที่ดีขึ้น
แต่การปฏิวัติไม่ได้หยุดเพียงเทคโนโลยี ด้านนอกของ HONDA PILOT 2026 ก็ได้รับการปรับแต่งเชิงกลยุทธ์ เพื่อแสดงความแข็งแกร่งและความเท่ห์ ด้านหน้ามีการเพิ่มกระจังหน้าที่ดูสมบูรณ์แบบและ “เหลี่ยม” พร้อมแผ่นกันกระแทกใหม่ด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้รถดูแข็งแรงและพร้อมลุย สื่อสารด้วยภาษาการออกแบบที่ให้ความมั่นใจและพร้อมลุยทั้งงานครอบครัวและเส้นทางท่องเที่ยว
Honda ไม่ได้จำกัดแค่รูปลักษณ์ภายนอกและเทคโนโลยีเท่านั้น ความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับเสียงในห้องโดยสารของรุ่น 2025 โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Kia Telluride ได้รับการรับฟังและแก้ไขอย่างจริงจัง Pilot 2026 จับใช้วัสดุมืดในการกันเสียงรบกวนใหม่ กระจกหน้าต่างที่กึ่งอุ่นผสมผสานวัสดุกันเสียงเสริมในประตูและฝากระโปรง ผลลัพธ์คือสามารถลดเสียงรบกวนได้ประมาณ 2-3 เดซิเบลในความถี่สำคัญ ซึ่งแปลเป็นประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบและสงบสุขมากขึ้น รุ่นท็อปอย่าง Touring และ Elite ยังได้รับการติดตั้งฟองน้ำเสริมภายในซุ้มล้อเพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุดอีกด้วย

“ฮอนด้าไม่ใช่แค่ปรับปรุง Pilot แต่กำลังเขียนใหม่เกี่ยวกับแนวทางของ SUV สำหรับครอบครัวในระดับมาตรฐาน การลงทุนในเทคโนโลยีตั้งแต่ต้นเป็นกลอุบายอันชาญฉลาดเพื่อดึงดูดและรักษาลูกค้า”
อีกหนึ่งการปรับปรุงเชิงปฏิบัติที่เสริมความน่าสนใจสำหรับครอบครัวคือการติดตั้งฟีเจอร์ใช้งานที่เป็นมาตรฐานในทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่น Sport ขึ้นไป รถสามารถเปิดท้ายด้วยไฟฟ้า (Power Tailgate) และมีราวหลังคา (Roof Rails) เล็กๆ แต่มีผลต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นพิเศษ สีภายนอกเพิ่มขึ้นด้วย Solar Silver Metallic, Smoke Blue Pearl และ Ash Green Metallic รุ่น TrailSport
V6 ‘Jurassic’ กับคลื่นไฮบริด: dilemma สำคัญของ HONDA PILOT 2026
ในขณะที่ภายในของ Pilot 2026 สะท้อนอนาคต เครื่องยนต์ของ SUV กลับหันไปทางความเชื่อถือได้ Honda เลือกใช้เครื่อง V6 ที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่สร้างความมั่นใจและความสงสัยในทางกลยุทธ์ ในโลกยุคนี้ที่การใช้ไฟฟ้าเป็นแนวโน้มที่ก้าวกระโดด การไม่มีตัวเลือกไฮบริดเป็นปัญหาใหญ่ของ Pilot รุ่นใหม่
พลังแรงและประสิทธิภาพที่น่าประทับใจแต่มีข้อสงสัยเรื่องการประหยัด
เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบและระบบปิดบล็อก cylinders แบบ direct injection ยังคงให้กำลัง 285 แรงม้า และ 262 ปอนด์-ฟุต ของแรงบิด ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งให้ความนุ่มนวลและสมรรถนะราบรื่น ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างคาดเดาและมีความทนทาน ตัวเลือกระบบขับเคลื่อนยังคงเป็นไปตามความสะดวก: ขับเคลื่อนล้อหน้า (2WD) เป็นมาตรฐานในรุ่น Sport, EX-L และ Touring ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ i-VTM4® ที่สามารถควบคุมแรงบิดได้ มีให้เลือกเป็นออปชันและเป็นมาตรฐานในรุ่น TrailSport, Elite และ Black Edition ความสามารถในการลากจูงยังคงไว้ที่ 3,500 ปอนด์ สำหรับรุ่น 2WD และ 5,000 ปอนด์ สำหรับ AWD
แม้จะเป็นรถที่เชื่อถือได้ แต่อัตราสิ้นเปลืองของ V6 ก็ยังไม่ตามทันในยุคนี้ โดยประมาณไว้ที่ 22 MPG รวมในรุ่น 2WD ซึ่งตามหลังคู่แข่งไฮบริดอย่างมีนัยสำคัญ เช่น Toyota Grand Highlander Hybrid ที่ทำได้ 36 MPG รวม ซึ่งแปลเป็นต้นทุนการเป็นเจ้าของต่อปีที่สูงกว่ามาก คำนวณคร่าวๆ ระหว่าง $800 ถึง $1,200 ต่อปีในค่าเชื้อเพลิง

แล้ว Honda กล้าหรือไม่ที่จะเสี่ยงโดยไม่ใส่ตัวเลือกไฮบริดเข้ามา?
ตลาดคาดหวังว่ารุ่นไฮบริดของ Pilot จะเปิดตัวในปี 2027 ซึ่งเป็นโอกาสให้คู่แข่งเตรียมตัว โดยสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของไฮบริดและสิ่งที่คู่แข่งทำได้ในบทความของเราที่เกี่ยวกับ Nissan Rogue Plug-in Hybrid 2026
การปรับปรุงด้านสมรรถนะและความปลอดภัยในการขับขี่
แม้คงไว้ซึ่งเครื่องยนต์เดิม Honda ก็ไม่ละเลยประสบการณ์การขับขี่ ด้วยการลงทุนในการปรับแต่งระบบพวงมาลัยไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ความรู้สึกและเสถียรภาพที่ความเร็วสูง พร้อมกับการปรับปรุง NVH เพื่อเติมเต็มภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมของ Pilot ผ่านความสะดวกสบายและความน่าเชื่อถือ
ในด้านความปลอดภัย Honda Pilot 2026 ย้ำความมุ่งมั่นในการปกป้องครอบครัว ด้วยเทคโนโลยี Honda Sensing® ที่เป็นมาตรฐานและได้รับการปรับปรุงมากขึ้น รวมถึงระบบเบรกหลังอุบัติเหตุ (Post-Collision Braking) ใหม่ตลอดสายตลอดทาง พร้อมกับระบบแจ้งเตือนการจราจรข้ามหน้าและระบบเบรกอัตโนมัติฉุกเฉินพร้อมตรวจจับคนเดินเท้า ซึ่งเป็นพัฒนาการสำคัญสำหรับ ความปลอดภัยและสมรรถนะของเบรกในรถยุคใหม่
HONDA PILOT 2026 กับยักษ์ใหญ่: ศึกชิงตำแหน่ง SUV 7 ที่นั่ง
กลุ่ม SUV 3 แถวเป็นสนามรบที่ดุเดือด คู่แข่งรุนแรงอย่าง Kia Telluride, Hyundai Palisade, Toyota Grand Highlander และ Mazda CX-90 เข้าร่วมการต่อสู้ ด้วยอาวุธใหม่ของ Pilot 2026 ที่เป็นกลยุทธ์เพื่อชัยชนะ
| รถยนต์ | เครื่องยนต์พื้นฐาน | กำลัง (HP) | หน้าจอ Infotainment พื้นฐาน | มีตัวเลือกไฮบริดไหม |
|---|---|---|---|---|
| 2026 HONDA PILOT Sport | 3.5L V6 | 285 | 12.3 นิ้ว | ไม่มี |
| Toyota Grand Highlander | 2.4L Turbo I4 | N/A | 12.3 นิ้ว | มี |
| 2026 Kia Telluride (ประมาณการ) | 3.8L V6 | N/A | TBD (หน้าจอใหญ่รอคาดการณ์) | ไม่มี |
| 2026 Hyundai Palisade | 3.8L V6 | N/A | TBD | มี |
| 2025 Mazda CX-90 | 3.3L Turbo I6 | N/A | TBD | มี |
Honda กำหนดมาตรฐานใหม่ทางเทคโนโลยีในรุ่นเริ่มต้น ซึ่งน่าจะกดดัน คู่แข่งอย่าง Kia Telluride 2027 ให้ตอบสนองในรอบถัดไป แต่สิ่งที่ยังคงเป็นช่องว่างคือการไม่มีตัวเลือกไฮบริด ขณะที่ Grand Highlander มีทางเลือกหลากหลาย รวมถึงรุ่นไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูง Pilot ยังคงยึดติดกับ V6

จุดแข็งและจุดอ่อนในสนามแข่งขัน
- จุดแข็ง:
- คุณค่าเพิ่มขึ้น: การทำให้เทคโนโลยีและฟังก์ชันใช้งานเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น Sport ทำให้แพ็กเกจเริ่มต้นดึงดูดใจเป็นอย่างมาก
- ความเชื่อถือได้: เครื่อง V6 และแพลตฟอร์มเป็นสัญลักษณ์ของความทนทานและบำรุงรักษาต่ำ ซึ่งเป็นจุดดึงดูดใจสำหรับครอบครัว
- พื้นที่และความสะดวก: ภายในกว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้สูง พร้อมรองรับผู้โดยสารสูงสุดแปดคนและโซลูชันเก็บของอัจฉริยะ เป็นข้อได้เปรียบสำคัญ
- สมรรถนะของ TrailSport: สำหรับคนรักการผจญภัย รุ่น TrailSport ให้ความสามารถ off-road ที่แท้จริงและปานกลาง
- จุดอ่อน:
- ช่องว่างของไฮบริด: การขาดตัวเลือกไฟฟ้าเป็นข้อเสียสำคัญในตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วสู่ความมีประสิทธิภาพและค่าบำรุงรักษาต่ำ
- สมรรถนะในการเบรก: การทดสอบก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่าระยะเบรกนานกว่าคู่แข่งบางราย
- ความหรูหราภายใน: ถึงแม้จะพัฒนาแล้ว แต่ภายในอาจไม่สามารถเทียบเท่าระดับความละเอียดอ่อนและวัสดุในรุ่นท็อปของคู่แข่งอย่าง Hyundai Palisade หรือ Mazda CX-90
รุ่น HONDA PILOT 2026 จะพร้อมจำหน่ายในเดือนธันวาคม 2025 ราคาขายเริ่มต้นประมาณ $42,000 สำหรับรุ่น Sport 2WD ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่แข่งขันได้ที่สุด สำหรับข้อมูลเปรียบเทียบ ลองดู NISSAN PATHFINDER ใหม่ 2026 ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุด
Honda มั่นใจใน Pilot 2026 เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ชูเทคโนโลยีมาตรฐานและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่เชื่อถือได้และใช้งานสะดวก แม้ว่าจะยอมศูนย์เสียพื้นที่ในด้านการใช้ไฟฟ้าชั่วคราว สำหรับครอบครัวที่มองหา SUV ที่แข็งแรง กว้างขวางและเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าจากรุ่นเริ่มต้น Pilot 2026 เป็นตัวเลือกที่น่าจำมาก แต่สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาต่ำในระยะยาว การรอรุ่นไฮบริดที่อาจมาในอนาคตหรือพิจารณาคู่แข่งไฟฟ้าก็อาจเป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
























